สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ ไปในการพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษา สถาบันการพยาบาลศรีสวรินทิรา สภากาชาดไทย ประจำปีการศึกษา 2566
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี อุปนายิกาผู้อำนวยการสภากาชาดไทย นายกสภาสถาบันการพยาบาลศรีสวรินทิรา สภากาชาดไทย เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ ไปในการพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษา สถาบันการพยาบาลศรีสวรินทิรา สภากาชาดไทย ณ ห้องประชุมศักรินทรภักดี ชั้น 3 อาคารสิรินธรานุสรณ์ 60 พรรษา ในการพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษามหาบัณฑิต จำนวน 3 ราย (สาขาการพยาบาลผู้ใหญ่และผู้สูงอายุ จำนวน 1 ราย และสาขาการพยาบาลเด็ก จำนวน 1 ราย) และผู้สำเร็จการศึกษาปริญญาบัณฑิต จำนวน 195 ราย (เกียรตินิยมอันดับ 1 จำนวน 6 คน และ เกียรตินิยมอันดับ 2 จำนวน 72 คน) รวมผู้สำเร็จการศึกษา ประจำปีการศึกษา 2566 จำนวนทั้งสิ้น 197 ราย เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2567
โอกาสนี้พระราชทานพระราโชวาท ความสำคัญตอนหนึ่งว่า…. ข้าพเจ้ายินดีที่ได้ทราบว่า กิจการของสถาบันการพยาบาลศรีสวรินทิรา สภากาชาดไทยก้าวหน้ามาด้วยดีตามเป้าหมาย ขอแสดงความชื่นชมต่อบัณฑิตที่มีความพากเพียรและมานะอดทน จนประสบความสำเร็จในการศึกษา
เมื่อสำเร็จการศึกษาแล้ว เชื่อว่าบัณฑิตแต่ละคน ก็จะยังคงมุ่งมั่นในการแสวงหาความรู้เพิ่มเติม และสร้างความเพิ่มพูนความสามารถของจนอยู่เสมอ เพื่อให้สามารถประกอบวิชาชีพพยาบาลได้อย่างสมบูรณ์ ทั้งนี้ เพราะวิชาชีพพยาบาล เป็นวิชาชีพที่มีความสำคัญต่อสุขภาพของประชาชน ทั้งในยามปกติ ปละยามเกิดสาธารณภัย จำเป็นต้องอาศัยความรู้ที่ลึกซึ้งกว้างขวาง และความสามารถในการนำความรู้ไปปรับใช้ให้เหมาะสมถูกต้องในสถานการณ์ต่าง ๆ บัณฑิตพยาบาลจึงต้องตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ โดยใช้ความรู้ความสามารถที่ได้สร้างสมอบรมา ส่งเสริมให้ประชาชชนได้ดำรงชีวิตอย่างมีสุขภาพดี ช่วยเหลือประชาชนในการป้องกันการเกิดปัญหาสุขภาพ ดูแลผู้ที่เจ็บป่วย ตลอดจนฟื้นฟูสุขภาพผู้ที่เจ็บป่วยด้ายเหตุต่าง ๆ ให้กลับมาใช้ชีวิตในสังคมได้โดยเร็วที่สุด การปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวนั้น ต้องให้สมเกียรติภูมิแห่งวิชาชีพ โดยปฏิบัติบนพื้นฐานจริยธรรมและจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพพยาบาล เพื่อให้บรรลุเป้าหมายสูงสุด คือ การมีชีวิตที่ดีของผู้ป่วยและประชาชน พร้อมกันนั้น ก็ต้องมีหลักปฏิบัติที่สำคัญในการดำเนินชีวิต คือความซื่อสัตย์สุจริต ความรับผิดชอบต่อหน้าที่ ความเสียสละเพื่อประโยชน์ส่วนร่วม ตลอดจนดำรงตนตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ถ้าทำได้ บัณฑิตก็จะสามารถปฏิบัติหน้าที่ของจน ทั้งในฐานะผู้ปะรกอบวิชาชีพพยาบาล และในฐานะพลเมืองที่ดีของสังคมได้อย่างสมบูรณ์ครบถ้วน อันจะเป็นการร่วมกันพัฒนาชาติบ้ายเมือง ให้ก้าวหน้ารุ่งเรืองยิ่ง ๆ ขึ้นได้อย่างดีที่สุด
ในพระปรมาภิไธยพระบามสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ขออวยพรให้บัณฑิตใหม่ทุกคนประสบความสำเร็จในชีวิตและหน้าที่การงาน ทั้งขอให้ทุกท่านที่มาประชุมพร้อมกัน ณ ที่นี้ มีความเจริญสวัสดีจงทั่วกัน
*งานประชาสัมพันธ์ สถาบันการพยาบาลศรีสวรินทิรา สภากาชาดไทย ขออนุญาตเผยแพร่ภาพและข่าวประชาสัมพันธ์ที่มีภาพบุคคลในกิจกรรมดังกล่าว*
